ปัญหาผิว

ผิวเป็นสิว

ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย

ผิวหย่อนคล้อย

ริ้วรอยลึกและริ้วรอยตื้น

ประเภทผิว

ผิวผสม

ผิวแห้ง/ผิวแห้งมาก

ผิวธรรมดา

ผิวมัน

CLINICAL Pro Retinaldehyde Treatment ผลิตภัณฑ์แรกที่มีส่วนผสมของ retinoid 2 ชนิด ที่เป็นสารตั้งต้นโดยตรงของ retinoic acid ซึ่งใช้ขั้นตอนในการเปลี่ยนสภาพน้อยกว่า เมื่อเทียบกับ retinol จึงทำให้อ่อนโยนกว่า บรรจุในแคปซูลแคลเซียม retinaldehyde สื่อสารกับผิวชั้นนอก เพื่อให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้สารสกัด pomegranate peel ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาระดับคอลลาเจนที่ดีในผิว พร้อมให้คุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว

นวัตกรรมใหม่ของ retinoid ที่มีความใกล้เคียงกับ retinoic acid ตามใบสั่งแพทย์มากที่สุด ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว มอบผิวที่กระจ่างใสไร้สิว ด้วยแคปซูล retinaldehyde และสารสกัด pomegranate peel ช่วยฟื้นบำรุงผิว ให้ผิวเปล่งประกาย

เริ่มต้นด้วยการใช้ 3 ครั้ง/สัปดาห์ และค่อย ๆ เพิ่มความถี่จนใช้ได้ทุกคืน ตามความเหมาะสม ใช้ผลิตภัณฑ์ 1-2 ปั๊มให้ทั่วใบหน้าและลำคอ โดยหลีกเลี่ยงบริเวณดวงตา เกลี่ยให้ทั่ว สำหรับกลางวัน ควรตามให้กันแดด

NEW PRO RETINALDEHYDE

สูตรอ่อนโยนมอบผลลัพธ์ขั้นสูงให้ผิวกระจ่างใส เปล่งประกาย

PDP Banner Image

ส่วนผสมที่ทำให้แบรนด์แตกต่าง

RETINALDEHYDE
บรรจุในแคปซูลแคลเซียมเพื่อผลลัพธ์ขั้นสูง
ลดการระคายเคืองลงอย่างเห็นได้ชัด

POMEGRANATE PEEL EXTRACT
ช่วยกระตุ้นการผลิต collagen พร้อมปลอบประโลมผิว

พิสูจน์ทางคลินิกแล้วว่าช่วย ให้ผิวเรียบเนียนและเปล่งประกายขึ้น

*อ้างอิงการศึกษาทางคลินิกที่มีผู้เข้าร่วม 35 คน และใช้ผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 8 สัปดาห์

PDP Banner Image
PDP Banner Image

แนะนำสำหรับคุณ

Water (Aqua/Eau), Caprylic/Capric Triglyceride (emollient), Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil (antioxidant plant oil/emollient), Dimethicone (emollient/texture enhancer), Polyglyceryl-2 Stearate (emulsifier), Polyglyceryl-3 Diisostearate (emulsifier/stabilizer), Propanediol (humectant), Sodium Stearoyl Glutamate (emulsifier), Retinal (vitamin A/antioxidant), Tocopherol(vitamin E/antioxidant), Tocopheryl Acetate (vitamin E/antioxidant), Saccharomyces Ferment Filtrate (hydration), Albatrellus Confluens (Mushroom) Extract (plant extract/antioxidant), Punica Granatum Pericarp Extract (plant extract/antioxidant), Glyceryl Stearate (texture enhancer), Stearyl Alcohol (texture enhancer), Hydroxyapatite (texture enhancer), Butylene Glycol (humectant), Cetyl Glyceryl Ether (emollient), Ricinus Communis (Castor) Seed Oil (emollient plant oil), Sodium Polyacrylate (film-forming agent), Isopropyl Myristate (emollient/texture enhancer), Hydroxyacetophenone (humectant), Caprylhydroxamic Acid (chelating agent), Sodium Phytate (chelating agent/stabilizer), Xanthan Gum (stabilizer), Glycerin (humectant), Hydroxystearic Acid (texture enhancer), 1,2-Hexanediol (preservative), Sorbitan Oleate (emulsifier), Naringin (antioxidant), Citric Acid (pH adjuster), Titanium Dioxide (CI 77891) (occlusive/opacifying agent).

ทรีตเมนต์ retinoid นี้ต่างกับผลิตภัณฑ์ retinoid อื่น ๆ อย่างไร?
แม้ผลิตภัณฑ์ RESIST Triple Active Total Repair Serum และผลิตภัณฑ์ CLINICAL 1% Retinol Treatment จะคล้ายคลึงกันกับผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment เนื่องจากช่วยฟื้นฟูผิวเสียจากแดด จัดการริ้วรอย และ ผิวหย่อนคล้อยได้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน แต่ละสูตรมีความเข้มข้นที่แตกต่างกัน และต่างก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เหมาะกับการจัดการปัญหาผิวที่แตกต่างกัน

ผลิตภัณฑ์ RESIST Triple Active Total Repair Serum เซรั่มเนื้อน้ำนมเนื้อบางเบา ที่ผสานส่วนผสมของ retinyl propionate และ hexylresorcinol พร้อมด้วย niacinamide เพื่อจัดการกับปัญหาสัญญาณแห่งวัยระดับปานกลาง จุดด่างดำที่เกิดจากแสง UV และ เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ retinol ที่มีความเข้มข้นปานกลาง และ เหมาะกับผู้ที่คุ้นเคยกับการใช้ retinol อยู่แล้ว

ผลิตภัณฑ์ CLINICAL 1% Retinol Treatment ครีมบางเบาที่มีส่วนผสมของ retinol บริสุทธิ์เข้มข้น เหมาะกับการจัดการผิวที่มีสัญญาณแห่งวัยในระดับปานกลาง เช่น ริ้วรอยถาวร ริ้วรอยลึก การเปลี่ยนแปลงของสีผิวและสภาพผิวที่เกิดจากแสงแดด จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ retinol ที่มีคุณภาพสูง เหมาะกับผู้ที่ใช้กับการใช้ retinol และต้องกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความเข้มข้นมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Dual-Retinoid Treatment (สูตรสากลสำหรับทุกประเทศ) โลชั่นเนื้อบางเบาที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว มีส่วนผสมของ retinaldehyde (หรือที่รู้จักกันว่า retinal) และ oleyl adapalenate (หรือที่รู้จักกันว่า adapinoid) เพื่อจัดการกับสัญญาณแห่งวัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้งกร้าน ผิวขรุขระ และ ปัญหาเกี่ยวกับสิวและรูขุมขน ผลิตภัณฑ์ที่ทรงพลัง (แต่อ่อนโยน) option ทางเลือกสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ retinol ที่มีความเข้มข้นสูง ที่ต้องการผลลัพธ์เทียบเท่าการใช้ผลิตภัณฑ์ตามใบสั่งแพทย์
เวอร์ชันที่ไม่ใช่สูตรสากล มีความคล้ายคลึงกันแทบจะทั้งหมด ยกเว้นส่วนผสม Adapinoid®.

ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ Peptide Booster เพื่อผิวยกกระชับอย่างไร?
ส่วนผสม retinoids ในผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment เน้นกระตุ้นให้ผิวผลิต collagens หลัก(ประเภทที่ 1 และ ประเภทที่ 3) มอบผลลัพธ์ผิวโดยรวมยกกระชับขึ้น สำหรับผู้ที่กังวลหลักเรื่องผิวหย่อนคล้อย และ ผิวสูญเสียความยกกระชับ ผลิตภัณฑ์ Pro-Collagen Peptide Booster เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการซ่อมแซมและช่วยเสริมโครงสร้างผิว และช่วยให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์เรียบเนียนขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการจัดการกับปัญหาสัญญาณแห่งวัย สิว และ ผิวหย่อนคล้อย การใช้ทั้งผลิตภัณฑ์ CLINICAL PRO Retinaldehyde Retinoid Treatment และผลิตภัณฑ์ Peptide Booster จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น สามารถใช้บำรุงผิวในเวลาเดียวกัน หรือ สามารถแยกใช้หนึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับกลางวัน และ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สำหรับกลางคืนได้

มีส่วนผสม หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับทรีตเมนต์นี้หรือไม่?
ไม่มี คุณสามารถใช้ retinoids ร่วมกับส่วนผสม และ สกินแคร์อื่น ๆ ได้ เช่น คุณสามารถใช้ทรีตเมนต์นี้กับ AHA, BHA, vitamin C, niacinamide และ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม หากคุณกำลังใช้ยาทาภายนอกตามแพทย์สั่ง หรือ ผลิตภัณฑ์ retinoid แบบรับประทาน

ส่วนผสม retinoid ในผลิตภัณฑ์นี้ถูกบรรจุในแคปซูลหรือไม่?
ใช่ นวัตกรรมใหม่ของ retinoid ใช้อนุภาคไมโครแคลเซียม (calcium phosphate ชื่อส่วนผสมคือ hydroxyapatite) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน สำหรับ retinaldehyde ปกป้องส่วนผสมจากปัจจัยต่างๆ เช่น แสง และอากาศที่อาจส่งผลเสียต่อ พร้อมด้วยกลไกการปล่อยสารแบบคงที่และเป็นระยะเวลานาน ช่วยให้รักษาระดับ retinaldehyde ในผิวให้คงที่ ช่วยลดการระคายเคือง และ มอบผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด

ฉันสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment สำหรับกลางวันได้หรือไม่?
ได้ ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment สามารถใช้ได้ทั้งกลางวัน และ กลางคืน เมื่อใช้สำหรับกลางวัน ควรปิดท้ายการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด


ฉันควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment หรือไม่?
ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment มีส่วนผสมของ humectants ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นเนื่องจากผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นเนื้อบางเบา การใช้ผลิตภัณฑ์นี้อย่างเดียวอาจจะไม่ชุ่มชื้นพอสำหรับบางคน ทั้งนี้สามารถตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์สูตรใดก็ได้ของ Paula’s Choice เพื่อเติมความชุ่มชื้น และให้ผิวนุ่มนวล และนี่ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น หรือ อาการผิวแห้ง จากส่วนผสมที่ทรงพลังอย่างส่วนผสม retinoid ในทรีตเมนต์นี้ได้ สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมาก ลองผสมทรีตเมนต์นี้กับ Moisture Renewal Oil Booster ปริมาณ 2-3 หยด


ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และคุ้นเคยกับ retinoid เท่านั้นใช่หรือไม่?
ไม่ แม้ว่าอาจจะมีผลิตภัณฑ์อื่นของเราที่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ retinoids หากคุณมีความกังวลผิวหลักๆ เกี่ยวกับ ริ้วรอยตื้น ริ้วรอยลึก ผิวหยาบกร้าน/ขรุขระ พ่วงด้วยปัญหาสิว และ ผิวอุดตัน ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment เป็นตัวเลือกที่ดีที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวคุณ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ retinoids ที่มีความเข้มข้นสูงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ (สำหรับบางคน) ดังนั้นจึงควรเริ่มใช้ทีละน้อย ค่อยๆ เพิ่มความถี่ในการใช้เมื่อใช้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยเริ่มใช้ retinoids 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ และค่อยๆเพิ่มความถี่ตามความเหมาะสม คุณอาจลองทดสอบการแพ้เพื่อเช็กอาการระคายเคืองก่อนที่จะใช้ทั่วบริเวณใบหน้า


ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment จะทำให้เกิดการดันสิวหรือไม่?
แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดน้อยมาก (ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดอาการดันสิว แต่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดกับใครบ้าง) บางคนอาจจะพบว่ามีอาการดันสิวเล็กน้อย เนื่องจาก ส่วนผสม retinoids ทรงพลัง เช่น retinal (แม้ว่าจะอ่อนโยน) ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างดี ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว แต่บางครั้งสิวอุดตัน หรือ สิวเม็ดเล็กที่ซ่อนอยู่ลึกใต้ผิวถูกดันออกมาเร็วขึ้น ทำให้เกิดสิวชั่วคราว สำหรับผู้ที่พบอาการดันสิว ซึ่งมักจะเป็นตุ่มเล็กๆ ในระหว่างทางที่คุณจะได้ผลลัพธ์ผิวที่เรียบเนียน กระจ่างใส และ เปล่งปลั่งขึ้นในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment สามารถใช้ร่วมกับบูสเตอร์อื่น ๆ ได้หรือไม่? หากใช้ได้ วิธีใช้ที่ดีที่สุด และความถี่ในการใช้คืออะไร?

ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment สามารถใช้ได้กับบูสเตอร์ทุกสูตรของเรา ยกเว้นผลิตภัณฑ์ 1% Retinol Booster เนื่องจากการใช้ร่วมกันอาจทำให้ได้รับ retinoid มากเกินไปสำหรับคนส่วนใหญ่ ในส่วนของวิธีการใช้ที่ดีที่สุดนั้นแตกต่างไปตามบุคคล ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว และ ความคุ้นชินของผิวกับส่วนผสมหลัก โดยทั่วไปแล้ว ทรีตเมนต์ เช่น ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Dual-Retinoid Treatment และ บูสเตอร์สามารถใช้ได้หลังทำความสะอาดผิว ลงโทนเนอร์ และ ผลัดเซลล์ผิว ทั้งนี้จะเรียงลำดับการทาผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัมผัสบางที่สุดไปหนักที่สุด คือ ทาบูสเตอร์ แล้วตามด้วย retinal treatment แล้วตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร สำหรับการบำรุงผิวช่วงกลางคืน หรือตามด้วยกันแดดสำหรับการบำรุงผิวช่วงกลางวัน
หากผิวคุณของคุณค่อนข้างบอบบาง แพ้ง่าย แนะนำให้ใช้สลับกันใช้บูสเตอร์ และ ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Dual-Retinoid Treatment คนละช่วงเวลา เช่น ใช้บูสเตอร์ตอนกลางวัน และ ใช้ retinal treatment ตอนกลางคืน
หากคุณพบว่ามีผิวลอกเล็กน้อย หรือ มีอาการระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinoid Treatment ลองผสมผลิตภัณฑ์กับtry ผลิตภัณฑ์ Moisture Renewal Oil Booster ประมาณ 2-3 หยด วิธีนี้จะช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกิดจาก retinoids และ ช่วยเพิ่มความทนทานต่อผลิตภัณฑ์ โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพของส่วนผสม


ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ retinoids ตามใบสั่งแพทย์ หรือ ผลิตภัณฑ์รักษาสิวได้หรือไม่? 
ได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ ควรปรึกษาเภสัชกร หรือ ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ และ ทำตามคำแนะนำ ซึ่งอาจได้รับการแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ตามใบสั่งแพทย์ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันกับทรีตเมนต์นี้ เพื่อดูการตอบสนองของผิวต่อส่วนผสมของ retinoid ในผลิตภัณฑ์ของเรา หากคุณพบว่าการใช้ร่วมกันทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ ควรหยุดใช้ และ แจ้งให้ผู้บริการด้านสุขภาพของคุณทราบ


ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment เหมาะกับผิวเป็นสิวหรือไม่?
เหมาะ ผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเหมาะสมกับการดูแลผิวเป็นสิว และ มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาผิวที่เกี่ยวกับสัญญาณแห่งวัย (ผิวเสียจากแดด), ผิวไม่เนียนเรียบ และ ปัญหาสิว ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น ผลิตภัณฑ์รักษาสิวมีส่วนผสมของ salicylic acid และ benzoyl peroxide ผู้ที่มีผิวเป็นสิว มักจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นชัดเจนจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากนี้ ส่วนผสม Adapalene ยังมีประโยชน์กับผู้ที่เป็นผิวอักเสบ rosacea เนื่องจากช่วยลดอาการระคายเคือง ผิวแดง และ อาการบวม


ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment เหมาะกับผิวแพ้ง่าย/ผิวอักเสบ rosacea หรือไม่? 
เหมาะ นอกจาก retinaldehyde จะอ่อนโยนกว่า retinol บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่มีบอบบางแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้ยังปราศจากน้ำหอม และยังมีส่วนผสมที่ไม่มีสารก่อการระคายเคือง เพื่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยที่สุดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ retinoid เข้มข้นขึ้น สำหรับผิวบอบบางควรเริ่มใช้ทีละน้อย ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ และ ใช้ในสำหรับกลางคืน โดยสังเกตการตอบสนองของผิวอย่างใกล้ชิด หากไม่พบ หรือ รู้สึกถึงการระคายเคือง สามารถเพิ่มความถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถใช้ได้ทุกคืนตามความเหมาะสม หากคุณมีผิวที่แพ้ง่ายมาก ควรทดสอบการแพ้ บริเวณกรอบหน้าก่อนที่จะใช้ทั่วใบหน้า


ฉันสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment ระหว่างตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตรได้หรือไม่?
เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ retinol และ อนุพันธ์ ที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เนื่องจากอาจมีความเกี่ยวข้องกับ retinoids ตามไปสั่งแพทย์ ลองเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยที่ไม่มีส่วนผสมของ vitamin A หรืออนุพันธ์ (ซึ่งรวมถึง retinaldehyde) สำหรับคำถามเกี่ยวกับส่วนผสมที่สามารถใช้ได้ระหว่างตั้งครรภ์ เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับ

สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment บริเวณรอบดวงตา และ/หรือ ริมฝีปากได้หรือไม่?
ได้ คุณสามารถใช้ร่วม หรือ สลับกันใช้กับผลิตภัณฑ์อายครีมของ Paula's Choice ที่คุณชื่นชอบ โดยทารอบ ๆ กระดูกเบ้าตา และ หลีกเลี่ยงบริเวณเปลือกตา ทั้งนี้เมื่อทาผลิตภัณฑ์แล้ว อาจจะมีการไหลได้ ควรระวังไม่ทาใกล้บริเวณแนวขนตาจนเกินไป ผลิตภัณฑ์นี้ยังสามารถใช้จัดการกับรอยรอบริมฝีปากได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณริมฝีปากโดยตรง ผู้ที่พบว่ามีอาการไวต่อ  retinoids ควรต้องสังเกตการตอบสนองของผิว และ ปรับการใช้ตามความเหมาะสม


ทำไม Paula’s Choice ถึงแนะนำให้เริ่มใช้ retinoids ทีละน้อย และ ค่อย ๆ เพิ่มความถี่ของการใช้?
สำหรับส่วนผสมหลัก bio-active อย่าง retinoids การใช้มาก ไม่ได้หมายความว่าดีกว่าเสมอไป
เราเน้นย้ำความสำคัญในการเริ่มต้นใช้ผลิตภัณฑ์ทีละน้อย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเพิ่งเริ่มใช้ retinoids) การเริ่มใช้ทีละน้อยช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการระคายเคือง และ ช่วยให้ผิวได้คุ้นเคย และ ทนทานต่อผลิตภัณฑ์ได้เมื่อใช้เป็นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง เราพบว่าการเริ่มใช้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ความเข้มข้นต่ำ ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่บ่อย และค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้น หรือ ความถี่ขึ้นเรื่อยๆ จะให้ประสบการณ์การใช้โดยรวมที่ดีทีสุด

ควรหลีกเลี่ยง retinoids เมื่อใด?
เนื่องจาก retinoids เป็นส่วนผสมของสกินแคร์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำให้ในบางกรณีควรหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมนี้ในขั้นตอนการดูแลผิวของคุณ
ดังนี้

กรณีที่คุณตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร และ แพทย์แนะนำให้หยุดใช้ส่วนผสมเหล่านี้
กรณีที่คุณมีโรคผิวหนังบางอย่าง ซึ่งแพทย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงส่วนผสมเหล่านี้f
กรณีที่ผิวของคุณถูกแดดเผา และ/หรือ มีแผลเปิด หรือ บาดแผลต่าง ๆ
ก่อนการทำหัตถการแก้ไขผิวที่เกี่ยวข้องกับการฉายแสง หรือ ใช้เลเซอร์ รวมถึงระยะเวลาก่อนหรือหลังการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรมเข้มข้น (ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ)

อะไรคือสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าคุณใช้ retinoids มากเกินไป?
สัญญาณของการใช้ retinoids มากเกินไป คือ ผิวแห้งมาก รวมทั้งมีอาการไวต่อผิวและอาการระคายเคืองมากขึ้น ผิวลอก หรือ ผิวเป็นคุย ผิวแดง หรือ อาจเกิดสิวได้ อาการเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการค่อย ๆ เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ทีละน้อย ไม่บ่อยจนเกินไป และ ไม่ใช้ส่วนผสม bio actives หลายชนิดพร้อมกัน(เช่น ส่วนผสมที่มีความเข้มข้นสูง) จนกว่าคุณจะมั่นใจว่าผิวตอบสนองได้ดี และ ใช้มอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันอาการผิวแห้ง หรือ อาการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

วัยรุ่นสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ CLINICAL Pro Retinaldehyde Retinoid Treatment ได้หรือไม่?
แม้ว่า retinoids อาจจะไม่จำเป็นสำหรับการต่อต้านริ้วรอยในวัยรุ่น แต่อาจมีประโยชน์สำหรับวัยรุ่นที่มีปัญหาสิว แพทย์ผิวหนังอาจแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ retinoid ที่มีจำหน่ายตามร้านค้า หรือ ผลิตภัณฑ์ตามใบสั่งแพทย์เพื่อจัดการกับปัญหาสิวที่ไม่หายขาดตามความเหมาะสม

REVIEWS